วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

งูเปื้อนคูถ๑


ทุศีล หมายถึง  ล่วงละเมิดศีลหรือวินัย  ประพฤติชั่ว มีปรกติชั่ว

งูเปื้อนคูถ๑
ภิกษุ ท. ! นักบวชชนิดไร ที่ทุก ๆ คนควรขยะแขยง ไม่ควรสมาคม
ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ ?
ภิกษุ ท. ! นักบวชบางคนในกรณีนี้ เป็นคนทุศีล มีความเป็นอยู่
เลวทราม ไม่สะอาด มีความประพฤติชนิดที่ตนเองนึกแล้วก็กินแหนงตัวเอง
มีการกระทำที่ต้องปกปิดซ่อนเร้น ไม่ใช่สมณะก็ปฏิญญาว่าเป็นสมณะ ไม่ใช่คน
ประพฤติพรหมจรรย์ก็ปฏิญญาว่าประพฤติพรหมจรรย์ เป็นคนเน่าใน เปียกแฉะ
มีสัญชาติหมักหมมเหมือนบ่อที่เทขยะมูลฝอย. ภิกษุ ท. ! นักบวชชนิดนี้แล
ที่ทุก ๆ คนควรขยะแขยง ไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้. ข้อนั้น
เพราะอะไร ? ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุว่า ถึงแม้ผู้ที่เข้าใกล้ชิด จะไม่ถือเอา
นักบวชชนิดนี้ เป็นตัวอย่างก็ตาม, แต่ว่า เสียงล่ำลืออันเสื่อมเสียจะระบือ
ไปว่า “คนคนนี้ มีมิตรเลว มีเพื่อนทราม มีเกลอลามก” ดังนี้.
ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน งูที่ตกลงไปจมอยู่ในหลุมคูถ กัดไม่ได้
ก็จริงแล, แต่มันอาจทำคนที่เข้าไปช่วยยกมันขึ้นจากหลุมคูถให้เปื้อนด้วย
คูถได้ (ด้วยการดิ้นของมัน) นี้ฉันใด๒ ; ภิกษุ ท. ! แม้ผู้ที่เข้าใกล้ชิด


จะไม่ถือเอานักบวชชนิดนี้ เป็นตัวอย่างก็จริงแล, แต่ว่า เสียงล่ำลืออันเสื่อมเสีย
จะระบือไปว่า “คนคนนี้ มีมิตรเลว มีเพื่อนทราม มีเกลอลามก” ดังนี้
ฉันนั้น เหมือนกัน. เพราะเหตุนั้น นักบวชชนิดนี้ จึงเป็นคนที่ทุก ๆ คน
ควรขยะแขยง ไม่ควรสมาคม ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้.


ทำตัวเหมือนโจร๑
ภิกษุ ท. ! มหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้า ย่อมมีโอกาสตัดช่องก็ได้
ย่องเบาก็ได้ ปล้นสดมภ์ก็ได้ ตีชิงก็ได้. องค์ห้าอย่างไรกันเล่า ? องค์ห้าใน
กรณีนี้คือ มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม ๑, ได้อาศัยที่กำบัง ๑, ได้อาศัยพึ่งพิงผู้มี
อำนาจ ๑, ได้อาศัยการโปรยทรัพย์ ๑, เที่ยวไปคนเดียว ๑.
มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ
มหาโจรได้อาศัยเกาะแก่งในแม่น้ำ หรือได้อาศัยหุบเหวตามภูเขา. นี้แล
เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยที่ซ่องสุม.
มหาโจรได้อาศัยที่กำบัง เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ
มหาโจรได้อาศัยพงหญ้าหรือป่ารก ได้อาศัยเนินดินหรือราวป่าใหญ่เพื่อเป็นที่
กำบัง นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยที่กำบัง.
มหาโจรได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
คือ มหาโจรได้อาศัยพระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา เป็นที่พึ่งว่า
“ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชา

เหล่านี้ จักช่วยโต้แทนเรา” ดังนี้. ครั้นใครโจทมหาโจรนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ
ขึ้นจริง, พระราชาหรืออำมาตย์ของพระราชาเหล่านั้น ก็ช่วยโต้แทนให้จริง.
นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ.
มหาโจรได้อาศัยการโปรยทรัพย์ เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ใน
กรณีนี้คือ มหาโจรเป็นคนมั่งคั่ง มีทรัพย์สมบัติมาก เขามีแผนการไว้ว่า
“ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไร ๆ เราจะปิดปากมันเสียด้วยทรัพย์สมบัตินี้”
ดังนี้. ครั้นใครโจทมหาโจรนั้นด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, เขาก็ปิดปากคน
เหล่านั้นเสียด้วยทรัพย์สมบัตินั้น. นี้แล เรียกว่า มหาโจรได้อาศัยการโปรยทรัพย์.
มหาโจรเที่ยวไปคนเดียว เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ
มหาโจรประพฤติตนเป็นคนไม่มีเหย้าเรือน เที่ยวไปแต่ผู้เดียว. ที่ทำเช่นนี้เพราะ
เหตุไร ? เพราะมหาโจรนั้นคิดว่า “มนต์ลับของตนอย่าได้แพร่งพรายไป
ภายนอกเลย” ดังนี้. นี้แล เรียกว่า มหาโจรเที่ยวไปคนเดียว.
ภิกษุ ท. ! มหาโจรผู้ประกอบด้วยองค์ห้าเหล่านี้แล้ว ย่อมมีโอกาส
ตัดช่องก็ได้ ย่องเบาก็ได้ ปล้นสดมภ์ก็ได้ ตีชิงก็ได้. ข้อนี้ฉันใด ;
. . . . . . . . . . . . . . .
ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : ภิกษุลามก ผู้ประกอบด้วยเหตุห้าอย่าง
ย่อมทำตนให้ถูกขุดราก ให้ถูกกำจัดความดี เป็นผู้มีความชั่วติดตัว ผู้รู้พากัน
ติเตียน ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก. เหตุห้าอย่างอะไรกันเล่า ? เหตุ
ห้าอย่างในกรณีนี้คือ ภิกษุลามก ได้อาศัยที่ซ่องสุม ๑, ได้อาศัยที่กำบัง ๑,
ได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ ๑, ได้อาศัยการโปรยทรัพย์ ๑, เที่ยวไปคนเดียว ๑ .

ภิกษุลามกได้อาศัยที่ซ่องสุม เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณี
นี้คือ ภิกษุลามกเป็นผู้ประกอบด้วยกายกรรมอันคดโกง, เป็นผู้ประกอบด้วย
วจีกรรมอันคดโกง, เป็นผู้ประกอบด้วยมโนกรรมอันคดโกง. นี้แล เรียกว่า
ภิกษุลามกได้อาศัยที่ซ่องสุม.
ภิกษุลามกได้อาศัยที่กำบัง เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้คือ ภิกษุ
ลามกเป็นคนมีมิจฉาทิฏฐิ ประกอบด้วยทิฏฐิอันแล่นดิ่ง ไปจับเอาปลาย
สุดโต่ง (แห่งความเห็นทั้งปวง).๑ นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยที่กำบัง.
ภิกษุลามกได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ใน
กรณีนี้คือ ภิกษุลามกได้อาศัยพระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเป็น
ที่พึ่งว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่องอะไรๆ, พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของ
พระราชา เหล่านี้ จักช่วยโต้แทนเรา” ดังนี้. ครั้นใครโจทภิกษุลามกนั้นด้วยเรื่อง
อะไร ๆ ขึ้นจริง, พระราชาหรืออำมาตย์ผู้ใหญ่ของพระราชาเหล่านั้น ก็ช่วยโต้
แทนให้จริง. นี้แล เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยพึ่งพิงผู้มีอำนาจ.
ภิกษุลามกได้อาศัยการโปรยทรัพย์ เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณี
นี้คือ ภิกษุลามกเป็นผู้ร่ำรวยลาภด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และ
คิลานปัจจัยเภสัชบริกขาร เธอมีแผนการไว้ว่า “ถ้าใครจักโจทเราด้วยเรื่อง
อะไร ๆ เราจักปิดปากเขาเสียด้วยลาภนี้” ดังนี้. ครั้นใครโจทภิกษุลามกนั้น
ด้วยเรื่องอะไร ๆ ขึ้นจริง, เธอก็ปิดปากคนเหล่านั้นเสียด้วยลาภนั้น. นี้แล
เรียกว่า ภิกษุลามกได้อาศัยการโปรยทรัพย์.
๑. เช่นยึดความเห็นว่า ตายแล้วเกิด, หรือตายแล้วสูญ เป็นต้น ; มิได้ถือว่า มีเหตุมีปัจจัย : ถ้าปัจจัย
เหลือ ก็เกิด, หมดปัจจัย ก็ไม่เกิด, ดังนี้ เป็นต้น ; ซึ่งเรียกว่าอันตคาหิกทิฏฐิ.

ภิกษุลามกเที่ยวไปคนเดียว เป็นอย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้
คือ ภิกษุลามกเลี่ยงไปอยู่เสียตามชนบทปลายแดนแต่ผู้เดียว เธอเข้าไปสู่สกุล
ทั้งหลายในชนบท ( ที่ไร้การศึกษา ) นั้น ๆ ย่อมได้ลาภ. นี้แล เรียกว่า ภิกษุ
ลามกเที่ยวไปคนเดียว.
ภิกษุ ท. ! ภิกษุลามก ผู้ประกอบด้วยเหตุห้าอย่างเหล่านี้แล้ว ย่อม
ทำตนให้ถูกขุดราก ให้ถูกกำจัดความดี เป็นผู้มีความชั่วติดตัว ผู้รู้พากันติเตียน
ได้ประสพสิ่งมิใช่บุญเป็นอันมาก อย่างนี้แล.